เด็กไทย ไปขายข้าวมันไก่ที่อเมริกา มาดูหน้าตาข้าวมันไก่อเมริกา







 หลังจากตัดสินใจเข้ามาขุดทองในดินแดนแห่งโอกาส สหรัฐอเมริกา “น้อง พูนสุขวัฒนา” กลายเป็นโรลโมเดลที่ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในสังคมสื่อสารออนไลน์ในประเทศไทย ด้วยเรื่องราวที่น่าประทับใจ จากจุดเริ่มต้นที่เหมือนจะมาจากศูนย์ แต่ด้วยความกล้า ความมุ่งมั่น วันนี้เธอกลายเป็นเจ้าของ แบรนด์ "Nong′s Khao Man Gai" อันโด่งดังในเมืองพอร์ตแลนด์ของรัฐโอเรกอน






เป็นก้าวย่างที่น่าสนใจ และพัฒนามาไกลมากขึ้น หลังจากที่เธอกลายเป็นที่รู้จักบนเวที Ted Talk เมื่อปีที่ผ่านมา
น้องเป็นชาวไทยที่เกิดในกรุงเทพมหานครฯ ได้รับการถ่ายทอดวิธีการทำอาหารแบบไทยจากแม่ตั้งแต่ยังเล็ก แต่เรื่องราวการเป็นเจ้าของกิจการของเธอนั้นไม่ได้สะดวกสบาย
บนเวทีเท็ดเอ็กซ์พอร์ตแลนด์ น้องเล่าถึงเรื่องราวชีวิตของเธอว่ามันไม่ได้เรียบง่าย ปูมหลังในวัยเยาว์จากครอบครัวที่พ่อผู้ติดเครื่องดื่มมึนเมา มักใช้ทำลายคนในครอบครัวทั้งด้านร่างกายและจิตใจอยู่เสมอ เธอยอมรับว่าเธออับอายในเรื่องราวครอบครัวของเธอ
เธอเฝ้าภาวนาว่าวันหนึ่งจะสามารถใช้ชีวิตในที่อื่นที่ไกลออกไปจากสถานที่ที่เธอเติบโตขึ้นมาในที่สุดเธอก็ได้ทำตามฝันข้ามฟ้าไปยังสหรัฐอเมริกาอีกฝั่งของโลก
จนกระทั่งปี2546 "น้อง" ในวัย 23 ปี ตัดสินใจแพคกระเป๋า 2 ใบ และเงินติดตัว 70 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2,350 บาท) มุ่งสู่อเมริกา ทั้งนี้ เธอเล่าติดตลกให้ผู้ชมฟังว่า อันที่จริงแล้วเธอมีเงินเริ่มต้น 300 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 10,000 บาท) แต่เธอใช้หมดไปกับการซื้อน้ำหอมแชแนลและแป้งพัฟที่เกาหลีใต้ ระหว่างแวะพักเครื่อง ซึ่งเธอยังใช้มันจนถึงทุกวันนี้!
สามสัปดาห์ให้หลังการย้ายไปสหรัฐฯ เธอได้ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ เธอทำงานทุกวันเช้าจรดเย็นเป็นเวลา 5 ปี ก่อนจะย้ายไปทำงานเป็นแม่ครัวในร้านอาหาร ป๊อก ป๊อก (Pok Pok)

ในปี 2552 น้องตัดสินใจซื้อรถเข็นจากเว็บไซต์เคร็กลิสต์ ด้วยเงิน 1,300 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 43,500 บาท) และใช้เงินทั้งหมดเพื่อเปิดกิจการข้าวมันไก่ เธอคัดเลือกวัตถุดิบอย่างหลากหลาย คิดค้นสูตรข้าวมันไก่และน้ำจิ้มในอพาร์ทเมนท์ของเธอ
ในปีแรกเธอพยายามที่จะทำให้ข้าวมันไก่ของเธอเป็นข้าวมันไก่ที่ดีที่สุด แต่เธอชี้ว่า การจะประสบความสำเร็จแค่ข้าวมันไก่ที่สมบูรณ์แบบนั้นไม่เพียงพอ ยังมีปัจจัยอื่นที่สำคัญ อย่างเช่น การบริหารธุรกิจและการเป็นผู้นำ จนวันหนึ่งทุกคนต่างเรียกเธอว่า “เชฟน้อง”
เชฟน้องเล่าต่อว่า เธอได้ใช้สิ่งที่แม่ของเธอสอน คือการ “ให้ผู้อื่นก่อนแล้วจึงค่อยรับกลับ เคารพลูกค้า และอย่าลืมที่จะยิ้ม” ก่อนจะยอมรับว่าตนเองผิดพลาดหลายครั้งในฐานะเจ้าของกิจการ “หากปราศจากทีมของฉัน ฉันก็เป็นเพียงคนธรรมดา”
เชฟน้องกล่าวทิ้งท้ายว่า “แม้สถานการณ์จะแย่แค่ไหน ขอให้เชื่อมั่นในตัวเองและลงมือทำ วันนึงเราเองอาจจะตกใจกับผลลัพธ์ที่ออกมา”

ปัจจุบัน เชฟน้องได้ขยายสาขาร้านน้องข้าวมันไก่อีก 2 สาขา ในเมืองพอร์ตแลนด์ ร้านข้าวมันไก่ของเธอเป็นที่นิยมอย่างมากและได้รับการันตีจากเยลพ์ เว็บไซต์แนะนำร้านค้าและร้านอาหารชื่อดังในสหรัฐฯ นอกจากนี้ เธอยังมีผลิตน้ำจิ้มข้าวมันไก่บรรจุขวดขายในห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นของในพอร์ตแลนด์ด้วย




ที่มา : http://board.postjung.com/880844.html




Previous
Next Post »