หากคุณชอบเรื่องราวสยองขวัญในแบบไทยๆ ล่ะก็ ลองมาฟังเรื่องราวที่เป็นตำนานในอดีตของจังหวัดนครสวรรค์กัน รับรองว่า จะทำให้คุณขนลุกก่อนนอนแน่นอน
ย้อนกลับ ไปเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2460 ณ วัดเขากบ ในสมัยนั้นบริเวณวัดยังเป็นป่าทึบรกชัฏ วัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง ไม่มีพระเณรอยู่จำพรรษา จึงถูกทิ้งร้างไว้หลายสิบปี จนกระทั่งหลวงพ่อทองเกจิด้านวิปัสสนากรรมฐาน ท่านเดินธุดงค์มาจากจังหวัดอุตรดิตถ์ ผ่านมาปักกลดจำพรรษาอยู่ที่นี่ ชาวบ้านเลยนิมนต์ให้ท่านมาอยู่เป็นเจ้าอาวาสและพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรือง สืบไป ซึ่งท่านก็ไม่ขัดศรัทธา
แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็อุบัติขึ้น เมื่อมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้น นั่นคือ มีสามเณรที่วัดหายตัวไปอย่างลึกลับทีละคน ตอนแรกเจ้าอาวาสก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าสามเณร คงจะหนีกลับบ้านก็ได้เพราะยังเด็กอยู่อาจคิดถึงบ้าน แต่ปรากฏว่าสามเณร ก็ยังคงหายไปเรื่อยๆ เจ้าอาวาสก็เริ่มเอะใจ จนมาเป็นเรื่องกันตอนที่โยมพ่อ โยมแม่ ของสามเณรที่หายมาที่วัด แจ้งหลวงพ่อว่า เณรเหล่านั้นไม่ได้กลับไปบ้านแต่อย่างใด เอ๊ะ
!! แล้วสามเณรเหล่านั้นหายตัวไปไหนกัน !!
ช่วง นั้นพระผู้ดูแลโบสถ์ท่านมาบอกว่า เห็นเศษผ้าจีวรขาดๆ ไปติดอยู่ที่ปากพระพุทธรูปองค์ที่อยู่ในโบสถ์เก่า ข้างเจดีย์ทรงสุโขทัย ทั้ง ๆ ที่เอาออกหลายครั้งแล้ว ก็มีมาใหม่ ทีแรกคิดว่าอาจมี ใครเล่นพิเรนมากลั่นแกล้ง แต่ท่านมาสังเกตุเห็นว่า พระพุทธรูปองค์นี้มีขนาดใหญ่ขึ้น จากตอนแรกท่านว่าขนาดเท่าคนจริง ตอนนี้สูงสัก 2 เมตรได้แล้วมั้ง ตอนแรกท่านว่าท่านคงคิดมาก ก็ไม่ค่อยได้ติดใจอะไร แต่ก็กำชับไม่ให้พระ สามเณร ออกมาข้างนอกตอนยามวิกาล
ท่านเจ้าอาวาสก็รีบไปดู เมื่อไปถึงโบสถ์ ก็ได้แต่ตกตะลึง เพราะพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว จากตอนแรกที่บอกว่า เป็นปางยืน ขณะนี้ได้อยู่ในท่าปางนอน เป็นท่านอนตะแคง แล้วเอามือข้างหนึ่งดันเศียรเอาไว้ แล้วขนาดก็ใหญ่ขึ้นด้วย ท่านบอกว่าตอนนั้นใหญ่กว่าคน 3 คนอีก