ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีกระแสข่าวอื่นๆ ว่า เกี่ยวกับสรรพคุณของมะนาว แชร์ให้ว่อนว่า
1.ตาต้อเนื้อรักษาหายขาดได้ 1 เดือน
2.กลิ่นตัวหายขาดได้
3.ใช้น้ำมะนาวหมักผมแก้ปัญหาผมร่วง อาการคัน ศีรษะเป็นรังแค และแก้ผมหงอกด้วย
4.อาการภูมิแพ้ ไม่รู้จักหาย
5.ตะปูตำเป็นบาดทะยัก ใช้มะนาวก็หาย
6.น้ำร้อนลวก ไฟไหม้
7.มีดบาด เลือดไหลใช้มะนาวแผลแห้งเร็ว
8.มือเท้า น้ำกัดเท้า ใช้มะนาวถูหาย
9.ตามัว ตาฟาง คันตา ตาแดง
10.เท้าเหม็น จากการใส่รองเท้า ใช้มะนาวถูกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ รับรองหายเหม็นไม่เกิน 10 วัน
11.เป็นฝ้าใช้มะนาวถูหน้าไม่เกิน 1 เดือน
12.เป็นสิว เป็นฝ้า กระ ด่าง ดำ ผิวแห้งมีริ้วรอย
13.เป็นหูด หายขาด มะนาวถูฝ่าเท้าก่อนนอนช่วยลดอาการปวดเมื่อยขา รวมถึงการแชร์ใช้น้ำมะนาวผสมกับเบกกิ้งโซดา หรือผงฟู มาแปรงฟันเพื่อทำให้ฟันขาวสมใจ รวมไปถึงการแชร์ข้อมูลเดิมๆ อย่างไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก เพราะเชื่อว่าเป็นยาอายุวัตนะ
นี่เป็นเพียงตัวอย่าง ซึ่งแพทย์ให้ข้อมูลว่าผิดหลักโภชนาการ และผิดหลักทางการแพทย์ ถึงขั้นอันตราย!
นพ.ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย บอกว่าใช้มะนาวรักษาดวงตาอันตรายมาก เพราะดวงตา เป็นอะไรที่บอบบาง ขนาดน้ำล้างตา โดยทั่วไปหากไม่ถูกสารเคมีเข้าตาจะไม่แนะนำให้ล้างตาอยู่ดี เนื่องจากไม่มั่นใจว่าน้ำล้างตาสะอาด ปราศจากเชื้อโรคหรือไม่ แต่น้ำมะนาวถือว่าอันตราย เพราะมีค่าความเป็นกรด ไม่รู้ว่า เมื่อนำไปหยอดตาแล้วค่าความเป็นกรด ความเป็นด่างจะปรับสภาพกับดวงตาได้หรือไม่
แต่ที่แน่ๆ ความเป็นกรด ไม่ควรเสี่ยงเพราะจะไปทำร้ายกระจกตา ยิ่งน้ำมะนาวไม่สะอาด อาจเกิดการติดเชื้อในกระจกตา และอาจทำให้ตาบอดได้ เพราะขนาดน้ำยาหยอดตายังต้องมีการฆ่าเชื้อ และมีการปรับสภาพเพื่อให้เข้ากับดวงตาได้
"การแชร์ข้อมูล ไม่ว่าจะใช้น้ำมะนาวรักษาต้อเนื้อ หรือแก้ปัญหาตามัว ตาฟาง ถือว่าไม่ถูกต้อง ยิ่งการรักษาต้อเนื้อ ต้องผ่าตัดเท่านั้น ไม่มีให้ยาหยอดตาแล้วหาย จึงเป็นการหลอกลวงประชาชน ซึ่งราชวิทยาลัยฯ เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ และต้องการชี้แจง ให้ข้อมูลความรู้การดูแลสุขภาพดวงตาที่ถูกต้องแก่ประชาชน ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถอ่านบทความ ข้อมูลความรู้ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพดวงตา โดยได้เปิดเฟชบุ๊กแฟนเพจในชื่อ ′สุขภาพตา โดยราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย′"นพ.ไพศาลกล่าว และว่า ภายในแฟนเพจจะมีคอนเทนต์ง่ายๆ เกี่ยวกับสุขภาพดวงตาที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย เป็นเรื่องที่ทันต่อสถานการณ์ เนื่องจากเมื่อได้รับข้อมูลที่มีการแชร์อย่างผิดๆ ก็จะมีการให้ข้อมูลที่ถูกต้องผ่านแฟนเพจในทันที รวมถึงการทำคลิปวิดีโอที่ทำให้เข้าใจการดูแลสุขภาพดวงตาอย่างง่ายๆ ลงในเว็บไซต์ยูทูบและแชร์มายังแฟนเพจด้วย ขณะที่ นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ข้อมูลว่า มะนาวเป็นค่าความเป็นกรดค่อนข้างสูง หากนำไปหยอดตา หยอดหู ย่อมมีอันตราย ทำให้กระจกตาอักเสบได้ ขณะที่การนำไปพอกผิว หรือทำลักษณะต่างๆ ตามที่แชร์ข้อมูลต่างๆ นั้น เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง แต่หากนำมาอาบ โดยมีการเจือจางจะไม่ก่ออันตรายมากนัก เพราะจริงๆ แล้ว น้ำมะนาวมีวิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินซีจะทำให้รู้สึกชุ่มชื่นและทำให้ร่างกายสดชื่น ปรับสมดุลร่างกายได้ แต่การนำมาใช้เพียวๆ ถือว่าเสี่ยงอันตรายได้ ที่สำคัญไม่มีงานวิจัยชิ้นใดระบุว่า น้ำมะนาวรักษาโรคต่างๆ ได้ชัดเจน
"หากสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสรรพคุณรักษาโรคต่างๆ โทรศัพท์สอบถามได้ที่กรมการแพทย์ หรือโทรไปที่สายด่วน 1669 ในช่องทางสอบถามต่างๆ ซึ่งจะลิงก์มายังกรมการแพทย์อีกที และขอย้ำประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อข้อมูลทางไลน์มากนัก ต้องเช็กก่อนแชร์ ดีที่สุด" นพ.สุพรรณกล่าว
กรณีที่ส่งต่อข้อความผ่านโซเชียลมีเดียว่า ใช้น้ำมะนาวผสมกับเบกกิ้งโซดา หรือผงฟู มาแปรงฟันเพื่อทำให้ฟันขาวสมใจได้ในครั้งแรกนั้น ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย ให้ข้อมูลว่า ถือว่าเป็นเรื่องเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ ในน้ำมะนาวจะมีกรดซัลฟิวริคแอซิด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ฟันกร่อนแล้ว ในส่วนเบกกิ้งโซดาจะมีสารโซเดียมไบคาร์บอร์เน็ต ที่มีฤทธิ์เป็นด่าง โดยโครงสร้างการทำงานของสารตัวนี้จะช่วยทำให้ฟันขาวได้ก็จริง แต่กรณีที่บอกว่าทำให้สีฟันขาวในครั้งแรกนั้นยังไม่มีความชัดเจน และเมื่อมาผสมกับน้ำมะนาวแล้ว จะเป็นการเพิ่มฤทธิ์ในการกัดกร่อนเนื้อฟัน ผิวฟัน เช่นเดียวกัน
"ปกติคนจะมีฟันอยู่ 2 ประเภท คือ ฟันน้ำนมสีจะออกขาวๆ แต่เคลือบฟันค่อนข้างบาง ส่วนฟันแท้จะออกสีเหลืองกว่าฟันน้ำนม แต่ถือว่าเป็นสีฟันธรรมชาติ เป็นตัวเคลือบฟันให้มีความแข็งแรงมากกว่า ทั้งนี้สีของฟันจะขึ้นอยู่กับสีผิวของแต่ละคนด้วย เช่น คนผิวดำจะมีสีฟันค่อนข้างขาว ตรงนี้เป็นเรื่องของยีนส์" ทพ.สุธากล่าว และว่า เท่าที่เจอคนไข้ที่ชอบว่ายน้ำจะมีปัญหาฟันสึกและกร่อน เพราะในสระน้ำจะมีการเติมกรด-ด่าง ลงไปเพื่อฆ่าเชื้อโรคต่างๆ หากไม่มีทดสอบปริมาณความเข้มข้นของสารที่เติมลงไปแล้วก็ถือว่าอันตรายกับฟัน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องแช่อยู่ในสระนานๆ วันละประมาณ 2 ชั่วโมง เช่น นักกีฬาว่ายน้ำนี่พบเลยว่าฟันสึกและกร่อน ดังนั้น การใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำมะนาวแปรงฟันเพื่อฟันขาว จึงไม่ใช่แน่นอนและไร้งานวิจัยรองรับ
ส่วนความเชื่อการบริโภคไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมักจะทำให้อายุยืนยาว เป็นยาอายุวัฒนะนั้น นายสง่า ดามาพงษ์ อุปนายกสมาคมโภชนาแห่งประเทศไทยและที่ปรึกษากรมอนามัย อธิบายว่า การบริโภคดังกล่าวถือว่าผิดหลักโภชนาการ เนื่องจากไม่มีงานวิจัยใดสนับสนุนว่า การกินลักษณะนี้จะช่วยให้อายุยืนได้ แต่ปัญหาคือ การกินลักษณะนี้จะส่งผลเสียแก่ร่างกาย หากกินไข่ดิบจะมีโอกาสติดเชื้อซาโมเนลลา ทำให้ท้องเสียท้องร่วงได้ ที่สำคัญ การกินลักษณะนี้จะไปเพิ่มคอเลสเตอรอลด้วย
ในส่วนของน้ำส้มสายชูที่นำมาใส่ไข่ดิบนั้น อาจไม่ได้รับผลโดยตรง เนื่องจากผู้บริโภคกินแต่ไข่ดิบเข้าไป ถ้าจะกินอาหารให้อายุยืนนั้น ต้องบริโภคอาหารให้ถูกสุขลักษณะต้องออกกำลังกายเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอ
ฟังผู้รู้อธิบายถึงคุณและโทษของมะนาวและอาหารชนิดต่างที่แชร์กันในโลกออนไลน์แล้วคงได้รับความกระจ่างดังนั้นก็อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ ยิ่งข้อมูลที่มีผลต่อสุขภาพ ยิ่งต้องระวัง!
กดถูกใจ (Like) ติดตามข่าวสารจาก อรุณสวัสดิ์
เนื้อหาโดย : นสพ.มติชน
ที่มาเนื้อหา : Health.kapook