นอกจากนี้นักวิทยาศาตร์แห่งมหาวิทยาลัยฮิโรซากิ ประเทศญี่ปุ่น ยังได้ทดลองนำเอาสารโซเดียมกลูตาเมท ซึ่งเป็นสารประเภทเดียวกับผงชูรสลองให้สัตว์ทดลองได้ทาน พบว่าประสิทธิภาพในการมองเห็นนั้นลดลง
เนื่องจากชั้นเรติน่าในดวงตาถูกทำลาย และกิจกรรมส่งสัญญาณคลื่นไฟฟ้าในสมองลดลงด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจเกิดได้ในมนุษย์ทุกคน และอีกหนึ่งการสังเกตุจากทีมวิจัยนั่นก็คือ อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยเป็นโรคต้อหินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะมาจากผลของการทานอาหารที่ผสมไว้ด้วยสารโมโนโซเดียมกลูตาเมทนั่นเอง
และแม้จะยังไม่ได้มีการรับรอง หรือยืนยันจากผลการวิจัยนี้ไว้ 100 % แต่เราก็อยากจะให้คุณลองลด หรืองดเว้นจากการทานผงชูรสหรือโมโนโซเดียมกลูตาเมทในปริมาณเกินพอดี นั่นก็คือไม่ควรเกิน 2 ช้อนชาต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งสุขภาพตาและสุขภาพกายและจะได้หาซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นสวย ๆ ใส่ได้นะคะ
TIP : นอกจากการส่งผลกระทบต่อดวงตาแล้ว ที่เราเคยได้ยินกันมาบ่อย ๆ ว่าทานผงชูรสมาก ๆ แล้วผมร่วงนั้น อาการผมร่วงน่าจะมาจากสาเหตุทางพันธุกรรมมากกว่า เพราะผงชูรสไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการผมร่วงแต่อย่างใด
แถมผงชูรสยังไม่ได้มีผลต่อรสชาติของอาหารด้วยค่ะ หากแต่ผงชูรสนั้น เป็นตัวนำสื่อประสาทที่ช่วยกระตุ้นให้ต่อมรับรสที่ลิ้นทำงานได้ไวขึ้น ทำให้คุณรับรสชาติของอาหารได้ชัดเจนขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ใครต่อใครเข้าใจว่า ผงชูรสทำให้อาหารอร่อยยิ่งกว่าเดิมนั่นเองคะ
รู้แบบนี้แล้วก็ลองลด ละ หรือเลิกทานผงชูรสไปด้วยก็น่าจะให้ผลดียิ่งกว่าเดิม อย่าลืมเอาไปลองปฏิบัติตามกันดูนะคะ
ขอขอบคุณสำหรับเนื้อหาจาก : Google+
กดถูกใจ (Like) ติดตามข่าวสารจาก อรุณสวัสดิ์