เจ้าของที่ขนลุก!! ก่อนนอนเห็นแสงประหลาด แต่ไม่ยอมเชื่อ และนี่คือสิ่งที่อยู่ในหลุม ทำเอาขนลุกทั้งหมู่บ้าน


 
 เมื่อวันที่ 30 เม.ย.58 เวลาประมาณ 12.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายธนิก มาสีพิทักษ์ อดีตส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย แจ้งว่า มีชาวบ้านบ้านหนองปิง ม.18 ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น มานิมนต์พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร หรือ “ครูบาไก่” พระลูกวัดวัดป่าบ้านขุมดิน ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น มาทำพิธีนั่งสมาธิดูพื้นที่นาของ นางนิตยา นารี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 ม.18 ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังมีผู้พบแสงประหลาดเกิดขึ้นหลายครั้งตอนกลางคืน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
 
 พบว่าที่นาดังกล่าวอยู่ใกล้กับ โรงเรียนบ้านหนองปิง พบชาวบ้านจำนวนมากมาร่วมพิธีจุดธูปเทียนเพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน พื้นที่ ประกอบพิธีตามความเชื่อของคนในชุมชน โดยมีพระอาจารย์สุวิทย์ เป็นผู้ประกอบพิธีดังกล่าว โดยชาวบ้านบอกว่ามีชาวบ้าน 1 คนที่พบแสงประหลาดได้เสียชีวิตแล้ว ไปเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
 
 นางนิตยา นารี เจ้าของที่นา กล่าวว่า ตนได้พบเห็นแสงประหลาดขึ้นคล้ายกับพระจันทน์ลอยขึ้นจากที่นาของตน ขึ้นไปบนฟ้าอย่างช้าๆ จึงได้ทักไปว่าแสงอะไรเกิดขึ้นในที่นาของตนเอง ซึ่งก็พบว่าแสงดังกล่าวนั้นกระพริบตอบ จึงได้ไปบอกคนในครอบครัวและเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันมาดู ก็พบว่าแสงดังกล่าวค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่จะหายไป
 
ด้านนายฤทธิชัย นารี กล่าวว่า ตนเองและพ่อ ได้พบเห็นแสงไฟประหลาด ซึ่งมีขนาดเท่ากำปั้นลอยขึ้นไปบนฟ้าและค้างนานอยู่หลายนาที ซึ่งคุณพ่อก็บอกว่าจะไปกลัวอะไรแค่แสงไฟ ก่อนใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ 3 นัด พอรุ่งเช้าคุณพ่อก็ประสบอุบัติเหตุรถชนได้รับบาดเจ็บ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ก่อนกลับมาพักฟื้นที่บ้านพัก จากนั้นไม่นานได้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะกำลังร่วมทำบุญกับชุมชนภายในวัด จึงเชื่อว่าจะเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในที่นาดังกล่าวก็อาจที่จะเป็น ไปได้
 
 พระอาจารย์สุวิทย์ กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวมีพระพิฆเนศถูกฝังอยู่ใต้ดิน ซึ่งถึงเวลาที่ท่านฯต้องการที่จะขึ้นมาปกปักรักษาลูกหลาน จึงได้ประกอบพิธีเพื่อนำขึ้นมา โดยพาทีมข่าวและชาวบ้านร่วมพิสูจน์ ด้วยการเดินไปชี้จุดที่พระพิฆเนศถูกฝังอยู่ ก่อนใช้ด้ายสายสิญจน์ขึงเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมเพื่อกันห้ามคนเข้าออก พร้อมกับให้ชาวบ้านในหมู่บ้านช่วยกันขุด ลึกลงไปกว่า 2 เมตร แต่พื้นที่ขุดเป็นดินลูกรังสลับกับดินแข็งทำให้ต้องใช้เวลาในการขุดนานกว่า 4 ชม.ก็ยังคงไม่พบ พระอาจารย์สุวิทย์ จึงได้ประกอบพิธีขอขมาและให้เจ้าของที่ดินมาร่วมพิธีด้วยเนื่องจาก องค์พระพิฆเนศไม่พอใจเนื่องจากมีชาวบ้านยิงปืนเข้าใส่และลบหลู่ต่างต่างนานา จึงได้ให้เจ้าของที่ดินและเพื่อนบ้านรวมไปถึงคนที่ยิงปืนเข้าใส่ลำแสงดัง กล่าวมาประกอบพิธีขอขมา

 
 ปรากฏว่า อากาศที่ร้อนอบอ้าวอยู่ๆ ก็มีฝนตกลงมาอย่างหนัก หลังประกอบพิธีเสร็จ พระอาจารย์สุวิทย์ จึงได้ทำการลงมือขุดด้วยตนเอง ประมาณ 20 นาที พร้อมทั้งบริกรรมคาถา ปรากฎว่าเสียมได้ไปขุดโดนวัตถุคล้ายกับของแข็งจึงค่อยๆ ขุดลงไปก็พบองค์พระพิฆเนศปางประทานพร และมีด้ามจับความยาวประมาณ 50 ซม.เนื้อทองสัมฤทธิ์ คราดว่าอายุประมาณกว่า 700 ปี ถูกฝังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ จมลึกอยู่ในชั้นดินของที่นาดังกล่าว ลักษณะตรงตามที่วาดลงในกระดาษ ก่อนที่จะทำการขุด สร้างความประหลาดใจและความเลื่อมใสศรัทธาให้กับชาวบ้านที่พากันมาติดตามการ ประกอบพิธีดักล่าวกว่า 200 คน 
 
 ก่อนนำองค์พระพิฆเนศดังกล่าวใส่พานที่ ใช้ในการบริกรรมคาถาและนำมาเก็บรักษาไว้ที่วัดบูรพาทิศ ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้านเพื่อให้ชาวบ้านได้กราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ขณะที่มีชาวบ้านที่ทราบข่าวทั้งจากในหมู่บ้านเดียวกันและจากหมู่บ้านข้าง เคียงต่างพากันมากราบไหว้และตีเป็นเลขเด็ดเลขดังตามความเชื่อต่างๆอย่างมาก มาย
 
 นายธนิก กล่าวว่า ที่ผ่านมา ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างเชื่อว่าพระอาจารย์สุวิทย์ มีวิชาอาคม เนื่องจากร่ำเรียนวิชากับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และสกลนคร ตั้งแต่บวชเป็นสามเณร เป็นลูกศิษย์สายอาจารย์ฟั่น ปัจจุบันจำวัดอยู่ที่วัดป่าขุมดิน ซึ่งการรับนิมนต์จากชาวบ้านสาวะถี นั้นมีทั้งคนเชื่อและคนไม่เชื่อ ซึ่งเป็นความคิดส่วนบุคคลและต้องใช้วิจารณญาณ ในการติดตามการบริกรรมคาถาหรือเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งหมดส่วนตัวเองนั้นมีความเชื่อถือและนับถือในเรื่องดังกล่าวอย่างมาก และติดตามการรับกิจนิมนต์ของพระอาจารย์สุวิทย์ หลายครั้ง ครั้งนี้ตนได้ร่วมลงมือขุดด้วย พบว่าดินมีความแข็งมาก และไม่มีร่องรอยที่จะทำให้เชื่อว่ามีคนนำไปฝังไว้ เพราะขณะเดินไปชี้จุดที่พบองค์พระพิฆเนศนั้น หน้าดินมีความเรียบเสมอกันทั้งหมด มีหญ้าขึ้น ตามธรรมชาติ 
 
 ทั้งนี้ องค์พระพิฆเนศที่ค้นพบนั้น หลังจากให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้ทำการกราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลตามศาสตร์ขององค์ท่านฯแล้ว จะนำกลับไปที่วัดป่าบ้านขุมดิน อ.มัญจาคีรี เพื่อนำไปเก็บรวบรวมไว้ที่เดียวกัน เพื่อจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เพราะเป็นศูนย์รวมพระพุทธรูป รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้โบราณที่ พระอาจารย์สุวิทย์ ได้ทำการนั่งนิมิตและค้นพบมาอย่างต่อเนื่องรวมกว่า 200 องค์ ซึ่งแต่ละองค์ไม่ทราบถึงที่มาขององค์พระและไม่ทราบว่ามีความเก่าแก่เพียงใด
 




Previous
Next Post »