“แผน ใหม่” ของพ่อค้าจีน, ที่รู้ว่า “Made in China” หมายถึงสินค้าคุณภาพต่ำ จึงเปลี่ยนป้ายเป็น “Made in PRC” ที่ย่อมาจาก “Made in The People’s Republic of China” แทน โดยเป้าหมายก็คือการเพิ่มยอดขายในญี่ปุ่นและในหลายๆประเทศที่ไม่นิยมสินค้า จากจีน เพราะมีคนอีกจำนวนมาก ที่ไม่รู้ว่า PRC หรือ People's Republic of China ย่อมาจากอะไร
“Chinese manufacturers have stopped using Made in China labels in an effort to improve sales. Clothes are being labelled Made in PRC because customers don’t know what it stands for”
“แผนใหม่” ของพ่อค้าจีน, ที่รู้ว่า “Made in China” หมายถึงสินค้าคุณภาพต่ำ
จึงเปลี่ยนป้ายเป็น “Made in PRC” ที่ย่อมาจาก “Made in The People’s Republic of China” แทน
โดยเป้าหมายก็คือการเพิ่มยอดขายในญี่ปุ่น, เผื่อใครไม่ทราบว่า “PRC” คืออะไร
แต่ญี่ปุ่นก็พยายามตอบโต้ “Made in PRC” นี้ ด้วยวิธีที่คล้ายกัน
“In response, Japan’s clothing industry is planning the new J Quality label of its own”
คือติดป้าย “J Quality” บนสินค้าที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น
เพื่อกระตุ้นให้คนในชาติเลือกใช้ Product ที่ “Made in Japan“
ซึ่งแน่นอนว่ามีคุณภาพสูงกว่า “Made in China” [และ Made in PRC]
ทว่า อีกเหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง “Made in PRC” ก็อาจเป็นเพราะความขัดแย้งระหว่างจีนและญี่ปุ่นที่เริ่มทวีความรุนแรงมาก ขึ้น, ทั้งในแง่สังคมและการนโยบายของ Shinzo Abe ที่ค่อนข้าง Aggressive
Product จาก “China Mainland” จึงต้องปรับตัว เพื่อให้คนญี่ปุ่นเข้าใจว่า “ไม่ใช่ของจีน”
เช่นกัน, การตอบโต้ด้วยป้าย “J Quality” ก็แปลในแง่ญี่ปุ่นไม่ยอมให้คนในประเทศตนถูกหลอก
ใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองช่วงนี้, ดูดีๆ นะครับว่าของที่เราซื้อมัน Made in อะไร ?
รึว่าช่วงวันหยุดยาวนี้อาจจะลองรื้อของในบ้านดูสิว่า สินค้าต่างๆของคุณนั้นเมดอินพีอาร์ซีหรือไม่
ที่มา : เฟซบุ๊ก BBCThai
http://hot.ohozaa.com/hot-5-15-170285