ความรุนแรงของวิกฤติ 2540 ทำให้เศรษฐีหลายคนในเมืองไทยที่ “ไม่ได้ล้มบนฟูก” บาดเจ็บสาหัสกันถ้วนหน้า จนบางคนถูกเรียกว่า “คนเคยรวย” หรือ “เทวดาตกสวรรค์” แต่บางคนก็เรียกตัวเองว่า “เศรษฐีเยสเตอร์เดย์”
“ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ” คือหนึ่งในนั้น ก่อนวิกฤติ 2540 เขาคือ ตำนาน “อัศวินม้าขาว” ที่นักลงทุนในตลาดหุ้นไม่มีใครไม่รู้จัก และเขายังเป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ขายคอนโดหรูให้เหล่าเศรษฐี แต่พิษวิกฤติ 2540 ทำให้เขาล้มละลาย สถานะเปลี่ยนจากเศรษฐีพันล้าน และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น ที่มีสำนักงานใหญ่โต ทำงานนั่งห้องแอร์เย็นสบาย มาเป็นพ่อค้าขายแซนด์วิชข้างถนนริมฟุตบาท ที่ใครๆ ก็รู้จักในนาม “ศิริวัฒน์แซนด์วิช”
15 ปีผ่านมา ชีวิตต้องสู้ของเขา ทำให้ตนเองกลับมารุกขึ้นยืนได้อีกครั้งในฐานะประธานบริษัท ทีจีไอเอฟ จำกัด ถือเป็นความสำเร็จในชีวิตการต่อสู้ของคนไม่ยอมแพ้ก็ว่าได้ แม้จะไม่กลับไปใหญ่เหมือนเดิม แต่น่าจะเป็นบทเรียนให้กับคนล้มเหลวหรือคนสิ้นหวัง ให้มีกำลังในการต่อสู้ ไม่ยอมแพ้กับปัญหานานาประการ
ข้อคิด 10 ประการต้องรู้ สู้ยุคเศรษฐกิจถดถอย! จากล้มกลับมาล้าน!! “ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ”
ช่วงนี้เห็นข่าวเศรษฐกิจแย่ เลยอดห่วงเพื่อนๆเถ้าแก่ไม่ได้ พอดีได้มีโอกาสยกหูโทรศัพท์หาป๊าศิริวัฒน์ ถามสารทุกข์สุขดิบ เลยคิดได้ว่าช่วงน่าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ น่าจะเอาประสบการณ์ของป๊าตอนผ่านช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง มาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
อย่างน้อย ก็น่าจะเติมกำลังใจได้มาก!!!
อย่างน้อย ก็น่าจะเติมกำลังใจได้มาก!!!
วิกฤติในปี 2540 ครั้งนั้นทำให้ป๊าศิริวัฒน์ ถูกเปลี่ยนคำนำหน้าจากเศรษฐีพันล้าน เป็นพ่อค้าแซนวิชข้างถนนที่ใครๆก็รู้จักในนาม “ศิริวัฒน์แซนด์วิช” และวันนี้!! ป๊าศิริวัฒน์ ใช้เวลาร่วมสิบกว่าปีในการกลับมายืนได้อีกครั้ง!!
” นี่แหละ!!แรงบันดาลใจของผม ป๊าศิริวัฒน์ เถ้าแก่ตัวจริง!! ”
ตอนคุยกับป๊านี่ฮึกเหิมมากก!! พอวางสายจากป๊า ก็เลยมาทบทวนเรื่องราวชีวิตป๊าในช่วงนั้น จนได้ออกมาเป็น “ความกล้า” ของเถ้าแก่อย่างป๊าศิริวัฒน์ ซึ่งมีทั้งหมด 10 ข้อด้วยกันครับ
1. กล้าตีฝ่า ทุกครั้งที่ล้มต้องลุกขึ้นเร็ว ทำหน้าเหมือนไม่เจ็บ ทั้งๆที่ข้างในกระอักเลือด
แค่ข้อนี้!! ข้อเดียวก็พอจะบอกได้ว่า ใครจะผ่านด่านแรกในยุคเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้ไปได้บ้าง และถ้าเห็นว่ามีคนใกล้ตัวเพื่อนๆกำลังเจอปัญหาก็แชร์ต่อได้เลยนะครับ
2.กล้าตื่นเช้า ขยัน และยิ้มเหมือนคนนอนเต็มอิ่ม 18 ชั่วโมงต่อวัน
3.กล้าอดใจ ประหยัดโคตรๆ กล้าหาเหตุผลที่ไม่ใช้เงิน ได้อย่างชาญฉลาด ในช่วงสร้างตัว
4.กล้ายกมือไหว้ลูกค้าทุกคน!!!
ในสภาวะที่ยากลำบาก คนที่มีความกล้าเหล่านี้ จะกลายเป็นเถ้าแก่ที่ผ่านยุคเศรษฐกิจล้มละลาย!! ไปได้
และอาจกลายเป็นเจ้าของกิจการที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
และอาจกลายเป็นเจ้าของกิจการที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
และนี่คือ ความกล้า 10 ประการ ที่ผมเรียบเรียงเขียนขึ้นมาจากสิ่งที่ป๊าศิริวัฒน์เป็น
เพื่ออยากจะให้เป็นทั้งประโยชน์และเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังสร้างตัวหลายๆคน
ที่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายของเศรษฐกิจที่ถดถอยแบบนี้…
เพื่ออยากจะให้เป็นทั้งประโยชน์และเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังสร้างตัวหลายๆคน
ที่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายของเศรษฐกิจที่ถดถอยแบบนี้…
ท้ายที่สุดเวลาคุยกันคนจนไม่เคยรวย คนเหล่านั้นจะโทษฟ้าโทษดิน โทษคนอื่นไปเรื่อย
เวลาคุยกับคนรวยไม่เคยจน คนเหล่านั้นจะประมาท
แต่เวลาคุยกับคนรวยที่เคยจน แล้วกลับมารวยได้อีกครั้ง
เราจะได้เรียนรู้จากคนเหล่านั้น เพราะคนเหล่านั้นของจริง!!
เวลาคุยกับคนรวยไม่เคยจน คนเหล่านั้นจะประมาท
แต่เวลาคุยกับคนรวยที่เคยจน แล้วกลับมารวยได้อีกครั้ง
เราจะได้เรียนรู้จากคนเหล่านั้น เพราะคนเหล่านั้นของจริง!!
จะขึ้นเวที แชมป์ย่อมรู้ว่าเบสิค สำคัญกว่าเทคนิค สำคัญคือจะเหยาะแหยะไม่ได้
ยุคนี้นักพูด นักสร้างแรงบันดาลใจ ครู โค้ช เต็มประเทศไปหมด
หากฟังเอาความอึกเหิมบ้างคงได้ แต่ถ้าจะเอาอย่างเถ้าแก่สักคนให้เดินตาม
ให้เลือกเพราะเถ้าแก่คนนั้นเคยอยู่ในสนาม ไม่ใช่บนเวที
ยุคนี้นักพูด นักสร้างแรงบันดาลใจ ครู โค้ช เต็มประเทศไปหมด
หากฟังเอาความอึกเหิมบ้างคงได้ แต่ถ้าจะเอาอย่างเถ้าแก่สักคนให้เดินตาม
ให้เลือกเพราะเถ้าแก่คนนั้นเคยอยู่ในสนาม ไม่ใช่บนเวที
ป๊าศิริวัฒน์ เองก็เป็นเถ้าแก่อีกคนนึงที่ช่วยยืนยันว่า “เบสิค สำคัญกว่า เทคนิค”
เพราะมันใช้ได้เสมอ โดยเฉพาะในยามวิกฤต!!
บทความนี้ขอยกย่อง ป๊าศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ด้วยหัวใจ
จากเพื่อนรุ่นลูก
บทความนี้ขอยกย่อง ป๊าศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ด้วยหัวใจ
จากเพื่อนรุ่นลูก
เป็นเถ้าแก่ต้อง ปัญญานำทุน สู้ๆเถ้าแก่ไทย